"บุโรพุทโธ" ศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก
"BOROBUDUR" ดอกบัวกลางเกาะชวา
บุโรพุทโธ เป็นศาสนสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวพุทธศาสนิกชนตั้งแต่สมัย อาณาจักรศรีวิชัยจนถึงปัจจุบันนี้ ถึงจะมีช่วงเวลาที่ถูกปล่อยให้รกร้างไปบ้าง แต่เมื่อถูกบูรณะใหม่ก็ไม่หมดความขลังและความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวพุทธเลย เพราะนอกจากความยิ่งใหญ่ของบุโรพุทโธนั้นยังมีความงดงามของภาพแกะสลักนูนต่ำตามความเชื่อของ ศาสนาพุทธ นิกายมหายาน และในความยิ่งใหญ่อลังการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 😃😃
ภาพโดย https://2.bp.blogspot.com.
โบโรบูดูร์ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ 'บุโรพุทโธ' เป็นมหาสถูปเจดีย์ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ ฮินดู-ชวา ในรูปแบบประติมากรรม สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 14 (พ.ศ. 1293-1393)ในสมัยของกษัตริย์ราชวงศไศเลนทร์ แห่งอาณาจักรศรีวิชัย โดยบุโรพุทโธถูกสร้างให้เป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงใจกลางเกาะชะวา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านตารางฟุตบนฐานสี่เหลี่ยม กว้าง 121 สูง 43 ฟุต คล้ายรูปทรงปิรามิด มีลานลดหลั่นกัน 8 ชั้นซึ่งมี 5 ชั้นล่างเป็นลานสี่เหลี่ยม 3 ชั้นบนเป็นลานวงกลมและบนลานวงกลมชั้นสูงสุดมีพระสถูปตั้งสูงขึ้นไปอีก 31.5 เมตร บุโรพุทโธ บริเวณโดยรอบเป็นที่ลุ่มและถูกล้อมรอบด้วยน้ำที่ท่วมจากแม่น้ำโปรโก ทำให้ดูเหมือนบุโรพุทโธเป็น 'ดอกบัวลอยน้ำ'
ภาพโดย https://4.bp.blogspot.com.
ภาพโดย http://ktktour.net.
ถึงแม้ว่า บุโรพุทโธ จะตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นมุสลิมอันดับ 1 ของโลก และแม้จะมีมีพุทธศานิกชนที่อยู่ในอิโดนีเซียเพียงแค่ 1% แต่อินโดนีเซียก็ได้ให้ความสำคัญแก่ศาสนสถานแห่งนี้ ซึ่งสนับสนุนโดยจัดงานวันวิสาขบูชาให้ชาวพุทธได้มาประกอบพิธีที่สถานที่แห่งนี้ และยังประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดแห่งชาติอีกด้วย นอกจากนี้ยังทำให้เราเห็นได้ว่า ถึงแม้จะมีความเชื่อและศานาที่ต่างกัน ชาวมุสลิมและชาวพุทธที่อยู่ในอินโดนีเซียสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ไม่มีการแบ่งแยก
โดยปกติมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมบุโรพุทโธอย่างหนาแน่นตลอด และในทุกๆปีจะมีพระสงฆ์จากหลากหลายนิกายและพุทธศาสนิกชนและพุทธศาสนิกชนหลากหลายเชื้อชาติแวะมาสักการะอย่างไม่ขาดสาย
มีความเชื่อว่า แผนผังของบุโรพุทโธ หมายถึง จักรวาล และ อำนาจ ของ"พระอาทิพุทธ เจ้า" คือพระพทุธเจ้าผู้ทรงสร้างโลกและทุกสรรพสิ่งในความเชื่อของศาสนาพทธลัทธินิกายมหายาน ซึ่งสถูปบนยอดสุด คือสัญลักษณ์แทนองค์พระอาทิพุทธเจ้าได้แผ่ไปทั่วทั้งจักรวาล จักรวาลนี้แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นบนสุด "อรุปธาตุ" ชั้นรองลงมา "รูปธาตุ" และชั้นต่ำสุดคือ "กามธาตุ"
ในชั้น กามธาตุ ที่เป็นชั้นส่วนฐานประกอบด้วยบันไดใหญ่ 4 ขั้น กำแพงรอบฐานมีภาพแกะสลักอยู่ประมาณ 160 ภาพ เป็นภาพแกะสลักเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ที่ยังลุ่มหลงในกาม ยึดติดกับความสุขความปรารถนาทางโลกไม่รู้จักพอ
ภาพโดย https://www.bloggang.com.
ชั้นต่อมา รูปธาตุ เป็นส่วนบนของชั้นกามธาตุ มีภาพแกะสลักเกี่ยวกับชาดกและพุทธประวัติตางๆประมาณ 1,460 ภาพ ทั้งผนังด้านในและด้านนอก ซึ่งในชั้นนี้หมายถึงขั้นตอนที่มนุษย์สามารถควบคุมกิเลสได้บ้างและหลุดพ้นจากกิเลสทางโลกมาได้บ้างบางส่วน
ชั้นสุดท้าย อรุปธาตุ เป็นชั้นที่เป็นส่วนของฐานกลม มีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ 72 องค์ แต่ละองค์บรรจุด้วยพระพุทธรูปตั้งเรียงรายอยู่ 3 ระดับ ล้อมรอบมหาเจดีย์ ยอดสุดของบุโรพุทโธ ซึ่งในทางธรรมแล้ว เจดีย์ทรงระฆังคว่ำ 72 องค์นั้น หมายถึง รูป18 เจตสิก 1นิพพาน 1 และฐานเจดีย์ที่เป็นรูปบัวผลิบาน หมายถึง การรู้ ตื่น และเบิกบาน ซึ่งในชั้นนี้จะสื่อถึงความว่าง ที่สุดของนิพพาน มนุษย์ไม่ผูกพันกับทางโลกอีกต่อไป และในชั้นนี้ก็เป็นจุดเด่นที่แสดงความเป็นบุโรพุทโธได้อย่างชัดเจน เมื่อใครไปที่นี่ก็ต้องถ่ายรูปกับชั้นนี้แน่นอน
ภาพโดย https://cdn.mushroomtravel.com
ภาพโดย https://www.thairath.co.th
บุโรพุทโธถูกปล่อยทิ้งร้างนานหลายร้อยปี จนกระทั่งพุทธศตวรรษที่ 24 เซอร์โทมัส แสตนฟอร์ด ราฟเฟิล ชาวดัทซ์ ค้นพบบุโรพุทโธในสภาพที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง จากนั้นจึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรก ในระหว่าง พ.ศ. 2448-2453 หลังจากนั้นได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่อีกครั้งโดยองค์กรยูเนสโก ให้ทุนสนับสนุนและระดมทุนจากประเทศที่นับถือพุทธศาสนา ประเทศไทยก็มีส่วนร่วมในครั้งนี้ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2543 ยูเนสโกยังประกาศให้ บุโรพุทโธ เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม อีกด้วย
เมื่อไปเที่ยวบุโรพุทโธ สิ่งที่ต้องดูอีกอย่างหนึ่งก็คือ พระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งมีความพิเศษกว่าที่อื่นแน่นอน โดยซื้อบัตรราคาพิเศษและเจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าไปรอพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ประมาณตี 4 ก็จะได้เห็นวิวสวยๆประมาณนี้
ภาพโดย https://f.ptcdn.info/646/004/000/1367242701-181-o.jpg
โดยปกติมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมบุโรพุทโธอย่างหนาแน่นตลอด และในทุกๆปีจะมีพระสงฆ์จากหลากหลายนิกายและพุทธศาสนิกชนและพุทธศาสนิกชนหลากหลายเชื้อชาติแวะมาสักการะอย่างไม่ขาดสาย
ภาพโดย https://www.wonderfulpackage.com
เป็นอย่างไรบ้างคะ จากที่ได้รู้ประวัติความเป็นมาและชมภาพความสวยงามของสิ่งที่คนสมัยก่อนตั้งใจสร้างมาเพื่อไว้สักการะบูชาและประกอบพิธีกรรม นอกจากจะน่าไปเยี่ยมชมแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่า 'ศาสนา' และความเชื่อมีอิทธิพลต่อคนเรามาตั้งแต่หลายพันปีก่อน ซึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมนุษย์ และหลักธรรมคำสอนของศาสนาก็มีส่วนที่ทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
อยากให้ทุกคน!! ลองไปสัมผัสบรรยากาศที่ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆจากรอบตัวแบบนี้กันนะคะ ยิ่งดูยิ่งอินกันเลยทีเดียว รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หรือหากใครไปมาแล้วอยากมาเล่าประสบการณ์เพิ่มเติมก็มาคอมเมนท์กันได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ😄😄💓
24/09/2561
บรรณานุกรม
แพลนเนท เวิลด์ไวด์.(2559).มหาสถานบุโรพุทโธ.สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561.จาก https://www.planetworldwide.com
วิกิพีเดีย.(2561).โบโรบูดูร์.สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561.จาก https://th.wikipedia.org
โอเชียนสไมล์.(ม.ป.ป.).บุโรพุทโธ มหาเจดีย์พระพุทธศานาที่ใหญ่ที่สุดในโลก.สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561.จาก http://www.oceansmile.com/IndoBali/Buro.htm
วินนิวส์.(2560)."บุโรพุทโธ"พุทธศานาศูนย์กลางพุทธศานาอันยิ่งใหฐ่ที่เจริญรุ่งเรืองในยุคอาณาจักรศรี
วิชัย.สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561.จาก https://www.winnews.tv/news/12498
ไทยรัฐ.(2555)."บุโรพุทโธ"วิหารแห่งสวรรค์.สืบค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561.จาก https://www.thairath.co.th/content/272108
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น